Facebook เพิ่มฟีเจอร์กล้อง ใส่เอฟเฟกต์ขณะ Live ได้แล้ว

Facebook เพิ่มฟีเจอร์กล้องถ่ายภาพใหม่ สามารถใส่เอฟเฟกต์ขณะ Live ได้ สร้างภาพ GIF ผ่านกล้องวิดีโอได้ใน 2 วินาที และเพิ่มข้อความขณะถ่ายภาพได้  

          หลังจาก Facebook ปรับอินเทอร์เฟซใหม่ สะอาดตาใช้งานง่ายกว่าเดิมแล้ว ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560 Facebook ได้เพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ให้กับกล้องถ่ายภาพ ได้แก่ ใส่เอฟเฟกต์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มสีสันให้กับการถ่ายทอดสด (Facebook Live) ของคุณได้, สามารถสร้างภาพ GIF ผ่านโหมดถ่ายวิดีโอได้ภายใน 2 วินาที และสามารถเพิ่มข้อความขณะถ่ายภาพเพื่อเพิ่มสีสันให้กับภาพถ่าย พร้อมแชร์ไปยัง News Feed, Story หรือข้อความ Direct ได้อีกด้วย

ที่มา : https://fbguide.kapook.com/view177556.html

LINE เพิ่มฟีเจอร์ Live ถ่ายทอดสดในห้องแชท

LINE เปิดตัวฟีเจอร์ Live ถ่ายทอดสดในห้องแชท พร้อมลูกเล่นส่งการ์ดอวยพรวันเกิดให้เพื่อนบน Timeline
          เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 LINE ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Live ในเวอร์ชั่น 7.9.0 ให้ผู้ใช้สามารถถ่ายทอดสดให้เพื่อน ๆ ในห้องแชทดูได้ ด้วยการแตะปุ่มรูปโทรศัพท์ด้านบนของห้องแชท แล้วเลือก Live ซึ่งแน่นอนว่าขณะถ่ายทอดสดจะสามารถใช้ฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ได้เหมือนกับการ Video Call โดยคนที่อยู่ในห้องแชทจะสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้แสดงวิดีโอแบบหน้าจอเล็ก, แสดงด้านบนของหน้าแชท หรือแสดงเต็มจอได้

ที่มา : https://line.kapook.com/view177532.html

LINE เปิดตัว Square ห้องแชทที่คุยกันได้

โดยไม่ต้องเปิดเผยชื่อ

LINE เปิดตัว Square ฟีเจอร์ใหม่ที่มาในรูปแบบห้องแชทแบบนิรนาม (anonymous) สามารถพูดคุยกันได้แบบไม่ต้องเปิดเผยชื่อ และมีสมาชิกได้มากถึง 5,000 คนต่อห้อง

          เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2560 เว็บไซต์ Tech in Asia รายงานว่า LINE เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เรียกว่า Square เป็นฟีเจอร์ที่มาในรูปแบบห้องแชทแบบนิรนาม โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือ LINE ID สามารถเข้าไปพูดคุยกันได้แบบไม่ต้องเปิดเผยชื่อ สำหรับห้องแชทแบบนี้สามารถจุสมาชิกได้ถึง 5,000 คน และสามารถเชิญเพื่อนเข้าร่วมห้องแชทได้ผ่านทางลิงก์ หรือ QR Code ได้

          นอกจากนี้ภายในห้องแชทยังมีระบบตรวจสอบที่ช่วยคัดกรองข้อมูลหรือคำที่ไม่เหมาะสม และยังมีมีระบบที่ให้ผู้ใช้สามารถรายงานผู้ใช้คนอื่นที่อัปโหลดคอนเทนต์ไม่เหมาะสมได้อีกด้วย


          สำหรับฟีเจอร์นี้ทาง LINE ได้เริ่มทดสอบแล้วกับผู้ใช้ LINE ในอินโดนีเซียและเกาหลีใต้ ส่วนประเทศอื่น ๆ ยังไม่มีข้อมูลออกมา 

ที่มา : https://line.kapook.com/view178058.html

Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy J7+ พี่ใหญ่ในตระกูล J มาพร้อมกล้องหลังคู่ 13+5 ล้านพิกเซล และกล้องเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล

หลังจากที่เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปประจำครึ่งปีหลังอย่าง Samsung Galaxy Note 8 ไปเมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา ล่าสุด Samsung ได้เตรียมเปิดตัวเพิ่มขึ้นมาอีกรุ่น ซึ่งจะมาเป็นพี่ใหญ่สุดในตระกูล J อย่าง Samsung Galaxy J7+ ที่มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.7 + 5 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4 ทั้งยังมีโหมด Live Focus เหมือนกับใน Galaxy Note 8 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายภาพได้ 2 ภาพในเวลาเดียวกัน (ภาพมุมกว้างและภาพบุคคล) รวมไปถึงการที่ให้ผู้ใช้งานปรับภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ในภายหลัง ส่วนกล้องหน้าจะเน้นเรื่องการเซลฟี่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.9 โดยสามารถถ่ายละลายหลังได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

นอกจากนี้ Galaxy J7+ จะทำงานด้วยหน่วยประมวลผลแบบ Octa Core ความเร็ว 2.39 GHz, RAM 4 GB, หน่วยความจำภายใน (ROM) 32 GB และสามารถเพิ่มการ์ด MicroSD ได้สูงสุด 256 GB ประกอบกับการมีฟีเจอร์ที่หลากหลาย เช่น การใช้งาน 2 หน้าจอ (Multi window), มีผู้ช่วยอัจฉริยะ Bixby, Dual Messenger, Secure Folder, ระบบตรวจจับใบหน้า (Face Detection) และระบบเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint Security)

ทั้งนี้ Samsung Galaxy J7+ จะมาพร้อมกับตัวเครื่อง 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีทอง และสีชมพู โดยยังไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดด้านราคาและวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

ที่มา : http://news.siamphone.com/news-32382.html

Apple วางแผนเปิดตัว Apple Watch กับ iPhone อีก 3 รุ่นในเดือนกันยายนนี้

หลังจากที่มีข่าวว่า Apple อาจเปิดตัวสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่น อย่าง iPhone 7s, iPhone 7s Plus และ iPhone 8 พร้อมกันในเดือนกันยายน 2017 (ข่าวย้อนหลัง) ในตอนนี้ก็มีข่าวเพิ่มเติมหลุดออกมาจากเว็บไซต์ข่าว CNBC ว่าทางบริษัทวางแผนให้ Apple Watch 3 เปิดตัวในเวลาเดียวกันอีกด้วย และหากทั้งหมดเป็นไปตามข่าวลือจริง เท่ากับว่า Apple เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์แบบใหม่ถึง 4 ชิ้นพร้อมกันเลยทีเดียว

ทั้งนี้ การทำงานของ Apple Watch 3 อาจจะไม่ต้องเชื่อมต่อกับ iPhone อีกต่อไป เนื่องจากมีการฝังซิมไว้กับตัวนาฬิกาและใช้การเชื่อมต่อข้อมูลแบบ Cellular ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถสตรีมเพลงผ่านเครือข่ายมือถือได้นอกเหนือจากการโทรเข้าหรือโทรออก รวมไปถึงอาจมีการเพิ่มความจุแบตเตอรี่เพื่อให้รองรับการใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึง อย่างไรก็ตาม หาก Apple Watch 3 มีการเปิดตัวพร้อมกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ จริง อาจส่งผลให้ผู้ใช้งานหลายๆ คนไม่ต้องการซื้อ iPhone และมุ่งเป้าไปที่นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นดังกล่าวเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น

ที่มา : http://news.siamphone.com/news-32203.html

ปล่อยภาพ Samsung Galaxy Note 8 สี Midnight Black เหมือนกับ S8 แต่เหลี่ยมขึ้น

ใกล้วันเปิดตัวเข้าไปอีกนิดสำหรับ Samsung Galaxy Note 8 มือถือเรือธงที่มีปากกา ซึ่งจะเป็นการกลับมาครั้งใหม่ และกำหนดเปิดตัวนั้น 23 สิงหาคม เป็นที่แน่นอนแล้ว ก็ยังคงมีภาพหลุดอย่างต่อเนื่องและเรื่อยไป

ล่าสุดนี้ภาพที่ออกมาแสดงให้เห็นตัวเครื่องที่เน้นความเหลี่ยม แต่ว่าถ้าพูดถึงสีแล้ว ภาพล่าสุดนี้เป็นสีดำ คาดว่าจะใช้ชื่อ Midnight Black และมีความคล้ายกับภาพหลุดที่ออกมาก่อนหน้านี้พอสมควร

โดยรายละเอียดของเครื่องนั้นกล้องหลังยังคงให้แบบ Dual Camera พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหลัง แบบเดียวกับ Galaxy S8 แต่ว่าหน้าจอของเครื่องนั้นเพิ่มความละเอียดเป็น 2160x4428 ขนาด 6.3 นิ้ว และขุมพลังทั้ง CPU Qualcomm Snapdragon 835 หรือ Exynos 8895 เหมือนกับ S8

ที่มา : http://hitech.sanook.com/1430929/

Nasket จออัจฉริยะ เหมือนยกทุกห้างมาไว้ที่ห้อง เตรียมให้บริการในไทยแล้ว

Nasket บริการใหม่จากคนไทยขอนำเสนอวิธีการซื้อของแบบใหม่ โดยติดตั้งจออัจฉริยะไว้ที่ห้อง ซึ่งจอนี้สามารถสแกนบาร์โค้ดสินค้าที่เราต้องการ เพื่อให้ Nasket จัดหามาส่งถึงบ้าน รวมถึงสามารถเรียกใช้บริการต่างๆ เช่นช่างหรือแม่บ้านได้เลย ไม่ต้องเปิดแอปหาสินค้าให้เหนื่อย

ซึ่งคุณอ๋อง-ผรินทร์ สงฆ์ประชา CEO ของ Nasket อธิบายว่าระบบของ Nasket นั้นไม่ได้ผูกกับร้านค้าใดเป็นพิเศษ แต่เมื่อได้ออเดอร์มา ทีมงานก็จะสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าต่างๆ ตามแหล่งที่มีสินค้านั้น แล้วนำไปส่งที่ล็อกเกอร์ใต้ตึก แทนที่จะต้องให้คนไปรอใต้ตึก เพื่อให้ลูกค้าสามารถไขรับสินค้าได้ตลอดเวลา ไม่ต้องมีคนอยู่รอ หรือไม่ต้องรอเวลานิติฯ เปิด

ส่วนสาเหตุที่ไม่ทำออกมาเป็นแอปคือ เพราะทำเป็นแอปแล้วเดี๋ยวคนก็ลืม แอปมันมีเยอะ ถ้าทำเป็นอุปกรณ์แล้วคนจะกลับไปใช้ได้เรื่อยๆ เพราะติดตั้งอยู่ในบ้านแล้ว ซึ่งนอกจาก Nasket จะสั่งซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคได้แล้ว ยังสามารถเรียกช่างไปซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องผ่านบริการ fixzy, เรียกแม่บ้านไปเก็บห้องจากบริการ Seekster หรือสั่งอาหารได้ด้วย เช่นเลือกเมนูเด่นๆ จาก barbecue plaza หรือบริการคุยกับหมอ เพื่อวินิจฉัยเบื้องต้นผ่านจอของ Nasket ได้เลย ค่าบริการคร่าวๆ ตอนนี้คือ รับคำแนะนำจากพยาบาลคิด 100 บาท ส่วนถ้าเป็นคุณหมอก็ 10 นาที 450 บาท

คุณผรินทร์เล่าให้ฟังว่าตอนนี้ Nasket มีข้อมูลสินค้ามากกว่า 50,000 รายการในระบบ โดยข้อมูลเหล่านี้ได้มาจาก Gs1 หรือสถาบันรหัสสากล และทีมงานของ Nasket ก็เก็บข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของสินค้าที่ขาดไป ซึ่งตอนนี้ Nasket ยังอยู่ในช่วงทดลองการให้บริการ ก่อนที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้

ซึ่งคุณผรินทร์เผยว่าราคาของจออัจฉริยะเพื่อใช้บริการ Nasket ยังไม่สรุปลงตัว แต่พยายามทำให้ไม่เกิน 7,500 บาท ซึ่งราคานี้เป็นราคาซื้อขาดเลย ไม่ต้องจ่ายค่าบริการอะไรอีก นอกจากนี้อาจจะมีเป็นแพ็กเกจร่วมกับบริษัทอื่นๆ เพื่อให้ค่าตัวจออัจฉริยะถูกลง และตอนนี้ก็กำลังร่วมงานกับผู้พัฒนาคอนโดมิเนียม และที่พักอาศัยต่างๆ เพื่อติดตั้งระบบของ Nasket เข้าไปเลย

สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บของ Nasket และสามารถลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารเมื่อผลิตภัณฑ์ออกวางตลาดจริงได้เลย

ที่มา : https://www.beartai.com/news/it-thai-news/185076